ขอออกตัวก่อนนะคะว่าสมัยที่ลูกแม่ดอกบัวสอบเนี่ยมันยังเป็น CSA อยู่เลย สอบเสร็จไม่กี่เดือนมันก็เปลี่ยนชื่อ เป็น step 2CS ข้อดีคือตอนนี้ไม่ต้อสอบ TOEFL ก่อนแล้วค่ะstep 2CS เป็นการทดสอบ clinical skills ค่ะ
แบ่งออกเป็น 3 components ดังนี้
1. Integrated Clinical Encounter(ICE) ทดสอบความสามารถในการรวบรวมข้อมูลจากคนไข้ ซักประวัติและตรวจร่างกาย ตลอดจนการจดบันทึกข้อมูล H&P, diagnosis impression และ initial work-up
2. Communication and Interpersonal Skills(CIS) ความสามารถในการถามคำถาม(การใช้คำถามเปิดม การพูดเกริ่นนำก่อนเปลี่ยนเรื่อง) ความสามารถในการให้คำแนะนำ ตอบคำถามและการบอกข่าวกับผู้ป่วย การมีมารยาทและความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้ป่วย(เช่น concern เกี่ยวกับผู้ป่วย สุขอนามัยของผู้ตรวจ)
3. Spoken English Proficiency(SEP) ความชัดเจนในการพูดภาษาอังกฤษ อันนี้ขอแนะนำว่า พูดให้ช้าๆชัดค่ะ เค้าจะได้ไม่ถามเราบ่อยแล้วจะได้คะแนนดีข้อสอบจะมีผู้ป่วย 12 cases patient encounter เคลละ 15 นาทีสำหรับซ้กประวัติ ตรวจร่างกาย ให้คำแนะนำ และ 10 นาทีในแค่ละเคสสำหรับเขียน patient record ถ้าเราใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที
ตอนที่เจอกับผู้ป่วย เวลาที่เหลือจะบวกเข้าไปในเวลาสำหรับเชียน patient record รวมๆแล้วใช้เวลาสอบทั้งหมด ประมาณ 8 ชั่วโมงค่ะคะแนนสอบจะบอกแค่ผ่านหรือไม่ผ่าน ไม่บอกเป็นตัวเลขว่าได้คะแนนเท่าไหร่นะคะ สำหรับคนที่ไม่ผ่านเค้าจะบอกว่าอ่อน ในส่วนไหนในสามส่วนนี้
การสมัครสอบสมัครผ่าน ECFMG ค่ะ เค้าจะให้ Eligible Period 12 เดือนหลัง approved ใบสมัครแล้ว เค้าจะส่ง schedule permit มาให้แล้วเราก็ต้องนัดสอบนะคะกรณีที่นัดวันสอบแล้วขอเลื่อนหรือยกเลิกวันสอบได้ ถ้าทำก่อน 5 วันทำการก่อนวันสอบไม่ต้องเสียเงินค่ะ ถ้าทำช่วงใกล้กว่านี้ต้องเสียเงินเพิ่ม ไม่สามารถยืดเวลาสอบได้นะคะ
ถ้าพลาด Eligible Period 12 เดือนนี้ไปแล้วต้องสมัครสอบใหม่สนามสอบตอนนี้มี 5 แห่ง ได้แก่ Atlanta(Georgia), Chicago(Illinois), Houston(Texas), LA(California) และ Philadelphia(Pensylvania)สำหรับผู้ที่จะเข้า 2007 match พยายามนัดวันสอบก่อนวันที่ 1 ก.ค. 2549 และพยายามได้ให้วันสอบก่อนวันที่ 31 ธ.ค.2549 เพื่อที่จะได้ผลทันวัน match ตอนนี้นักศึกษาแพทย์อเมริกันเค้าก็ต้องสอบสเต็ปนี้ด้วยเพราะฉะนั้นพยายามนัดวันสอบล่วงหน้าให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะมันเต็มเร็วค่ะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเดือนพฤษภาถึงมิถุนานะค่าสมัครสอบ$1200ผลสอบจะได้รับผลสอบภายใน 8 สัปดาห์(ปกติ 4-6 สัปดาห์บางทีก็ได้แล้ว)
วันสอบอย่าลืม1. เอา stethoscope ไปด้วย อย่างอื่น เช่น ไฟฉาย ไม้กดลิ้น เข็มหมุด ไม่ต้องเอาไป เขามีให้
2. เอาเสื้อกาวน์ไปด้วย
3. แต่งตัวให้เรียบร้อย ไม่ถึงกับต้องใส่สูท แต่ผู้ชายควรผูกเนคไท ผู้หญิงใส่กระโปรงหรือกางเกงสแลค ใส่รองเท้าคัชชูแบบสุภาพ จะปลอดภัยที่สุดเพราะเขามีคะแนนการแต่งกาย(professional) ให้ด้วย อยากใส่เมคอัพก็ได้นะคะ ทำอะไรก็ได้ที่ดูสุภาพไว้ก่อน
ตอนที่สอบที่แอตแลนต้าเขามีน้ำและอาหารเที่ยงให้ค่ะอ่านหนังสืออะไรดีรีวิวความรู้ clinical ค่ะ ซ้อมซักประวัติ ตรวจร่างกายกับเพื่อนๆนะคะ แล้วก็ฝึกเขียน H&Pตอนนี้มี First Aid for the USMLE Step2 CS เห็นได้รีวิวดีเหมือนกัน
ตอนสมัยนั้นลูกแม่ดอกบัวใช้ Mastering the OSCE/CSA: Objective Structured Clinical Examination/Clinical Skills Assessment ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีให้อ่าน มีหนังสือของ Kaplan ด้วยที่ใช้ประกอบการสอน ลองเอามาอ่านดูได้
ข้อสำคัญคือ จับคู่ซ้อมกับเพื่อนเยอะๆนะอย่าลืม- เคาะประตูก่อนเข้าห้อง- กล่าวคำทักทาย และแนะนำตัว(สำคัญมากในมารยาทของประเทศนี้)- เวลาจะเปลี่ยนหัวข้อให้ใช้ transition - คลุมผ้าเวลาตรวจร่างกาย- ล้างมือก่อนตรวจร่างกาย(เวลาล้างมือจะได้คิดไปด้วยว่าจะต้องตรวจระบบไหนบ้าง)-
สรุปหลังตรวจร่างกาย คิดว่าเค้าเป็นอะไรต้องทำอะไรต่อ เช่น แลป เอ็กซเรย์ รวมถึงให้คำแนะนำ เช่น เลิกสูบบุหรี่ เลิกเหล้า ออกกำลังกาย - ถ้าตรวจร่างกายแล้วก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร ก็บอกเค้าว่า ยังไม่รู้ขอดูผลแลปก่อน (So far, there are possibilities that you have heart problem or stomach problem. It is too soon to give the definite answer. I would like to run some test and we will discuss more after that.)- แสดงท่าทางมั่นใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส- ทำท่าเห็นอกเห็นใจ เวลาเค้าทำท่าเจ็บหรือเวลาที่เราบอกข่าวร้าย(เช่น เป็นมะเร็ง)- ก่อนจบถามเค้าว่ามีคำถามอะไรไหม แล้วตอบคำถามสั้นๆ อธิบายเป็นภาษาง่ายๆ ไม่ใช้ศัพท์แพทย์- เชคแฮนด์และบอกลาก่อนจบ
ขอบคุณเจ้าของบทความมา ณ ที่นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น